9 นักเทนนิสชาย หล่อละลาย มีสไตล์จนสนามต้องลุกเป็นไฟ

9 นักเทนนิสชาย หล่อละลาย มีสไตล์จนสนามต้องลุกเป็นไฟ

อีก 1 ในประเภทกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบยุโรป เป็นกีฬาที่เล่นได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยมีการแข่งขันเป็น 2 ฝ่าย มีทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ สามารถเล่นได้ทั้งชายและหญิง แต่ถ้าพูดกันตรง ๆ นอกจากทักษะการตีลูกเทนนิส ด้วยความคล่องแคล่ว ว่องไวในทุกส่วนของร่างกายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้กีฬาชนิดนี้ดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูดระหว่างการแข่งขันนั่นก็คือ หน้าตาอันโดดเด่น แฟชั่นส่วนตัว บุคลิกลักษณะของนักเทนนิส ซึ่งในวันนี้เราก็ได้รวมข้อมูลและรูปของ นักเทนนิสชายหล่อ ละลาย ที่แค่ยืนเฉย ๆ ก็ยังมีเสน่ห์โดยที่ไม่ต้องทำอะไรแม้แต่หวดลูก ก็ขโมยใจสาว ๆ ไปแล้ว ว่าแต่จะมีใครติดในอันดับบ้าง ลองเช็คได้จาก 9 อันดับ ที่รวบรวมมาได้เลย

  1.  โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ / Roger Federer

1-Roger Federer

น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดมากฝีมือจากสวิส สุดยอดตำนานนักหวด 8 สมัย ที่วิมเบิลดัน ไม่เกินไปนักที่จะบอกว่านี่คือตำนานที่ยังมีลมหายใจ! เพราะไม่ว่าจะลงแข่งที่ไหน เขาผู้นี้ก็ผงาดฟาดแชมป์เทนนิสเกือบทุกรายการ อย่างในปี 2005 – 2008 ก็ได้รับรางวัลจากรางวัลนักกีฬาโลกแห่งปี (Laureus World Sportsman of the Year) มายาวนานถึง 4 ปี ซ้อน ในขณะที่เขาประสบความความสำเร็จ ทั้งด้านชื่อเสียงและเงินรางวัลจากการแข่งขันอันมากมาย เขาก็ไม่ลืมที่จะส่งต่อโอกาสนี้ดี ๆ ที่มีไปถึงผู้อื่น ด้วยการจัดตั้งมูลนิธิ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer Foundation) ขึ้นเมื่อปี 2003 จุดประสงค์ก็เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กพิการหรือด้อยโอกาสในแถบแอฟริกาใต้

  1.  กรีกอร์ ดิมิตรอฟ / Grigor Dimitrov

2-Grigor Dimitrov

กรีกอร์ ดิมิตรอฟ นักเทนนิสหนุ่มมาดเข้ม สัญชาติบัลแกเรีย ที่มีสไตล์แฟชั่นและการโพสท่าถ่ายรูปทั้งในและนอกสนามสุดคูล ผู้นี้เคยขโมยหัวใจนางฟ้าแห่งวงการเทนนิสหญิง มาเรีย ชาราโปวา อดีตนักหวดสาวมือ 1 ของโลก มาแล้ว ก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกลากันไปในปี 2015 ส่วนชีวิตในสนามนั้น ดิมิตรอฟ เคยคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน จูเนียร์ ชายเดี่ยว ในปี 2008 จากการลงเล่นระดับจูเนียร์ หลังจากนั้นก็ได้เทิร์นโปรไปเป็นมืออาชีพด้วยการคว้าแชมป์ที่ เอทีพีทัวร์ มากถึง 2 รายการ คือสต็อกโฮล์ม โอเพ่น ที่สวีเดน เมื่อปี 2013 และ เบียร์โต เม็กซิกาโน เทลเซล ที่เม็กซิโก เมื่อปี 2014

  1.  เฟลิเซียโน โลเปซ / Feliciano Lopez

3-Feliciano Lopez

เฟลิเซียโน โลเปซ นักหวดจอมเก๋าจากสเปน นี่ก็เแทบจะไม่ใช่นักกีฬาเทนนิสคนหนึ่งแล้ว ด้วยหน้าตาที่หล่อมาดเข้มตามแบบฉบับหนุ่มสเปน ทำให้เขามีอาชีพที่สองรองจากการเล่นกีฬาที่รักก็คือ การเป็นนายแบบ ที่ตัวเขานั้นได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นอยู่หลายต่อหลายครั้ง และขึ้นแท่นอินฟลูเอนเซอร์ของแบรนด์ทำเอาสาว ๆ ใจละลายเป็นว่าเล่น ส่วนเรื่องในสนาม เขาคว้าแชมป์เดวิส คัพ มาครองได้ถึง 5 สมัย (2004, 2008, 2009, 2011, 2019) และเฟรนช์ โอเพ่นอีก 1 สมัย (2016)

  1.  โนวัค ยอโควิช / Novak Djokovic

4-Novak Djokovic

โนวัค ยอโควิช นักหวดลูกสักหลาดชาวเซอร์เบีย อีกหนึ่งสุดยอดนักหวดที่ก้าวขึ้นมาอันดับ 1 ของโลกได้หลายต่อหลายครั้ง เขาคว้าแชมป์และสร้างชื่อเสียงไปมากมายหลายรายการ เช่น แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 6 สมัย เป็นคนเดียวที่สามารถคว้า 3 สมัยติดต่อกันได้ รวมไปถึงการคว้าแชมป์ที่วิมเบิลดัน 3 สมัย เป็นต้น นอกจากความหล่อเข้มแล้ว เอกลักษณ์ของหนุ่มนักหวดผู้นี้ยังมีดีตรงที่เป็นคนอารมณ์ขัน ลองสังเกตได้จากท่าเต้นในสนามเทนนิสดูแล้วจะรู้ว่าความขี้เล่นนั้นไม่แพ้ใคร ส่วนชีวิตนอกสนามนั้นเขาก็มีมูลนิธิเป็นของตัวเอง คือ มูลนิธิ Novak Djokovic องค์กรระดับโลกที่ช่วยเด็กด้อยโอกาสในเซอร์เบียด้านการศึกษา และสนับสนุนเยาชนของเซอร์เบียในการไปแข่งขันกีฬาที่ต่างประเทศ

  1.  ร็อด เลอเวอร์ / Rodney George Laver

5-Rodney George Laver

ร็อด เลอเวอร์ อดีตนักเทนนิสชาวออสเตรเลีย ผู้นี้เคยชนะการแข่งขันแกรนด์สแลม 11 รายการ, ออสเตรเลียนโอเพ่น 3 รายการ, เฟรนช์โอเพ่น 2 รายการและวิมเบิลดัน 4 รายการ ในแกรนด์สแลมในประเภทคู่ผสม เขาคว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่น เฟรนช์โอเพ่น และวิมเบิลดัน นอกจากนี้ เลอเวอร์ยังได้รับรางวัลเดวิสคัพ 5 ครั้ง และแกรนด์สแลมในประเภทคู่ผสมที่ออสเตรเลียน เฟรนช์ โอเพ่น และวิมเบิลดัน นี่ก็เป็นหนุ่มเทนนิสอีกหนึ่งคนที่หล่อมาดดีที่ได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์วงการเทนนิส

  1.  พีต แซมพราส / Pete Sampras

6- Pete Sampras

การเสริ์ฟอันทรงพลังเพียงครั้งเดียวของ พีต แซมพราส ด้วยท่าแบ็คแฮนด์ ทำให้แฟน ๆ ของเขาติดตราตึงใจไปนานแสนนาน แซมพราส นักเทนนิสชาวอเมริกันที่มีความช่ำชองและเล่นรอบด้านได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ตัดสินใจยุติอาชีพเส้นทางการเป็นนักออกแบบ หลังจากคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นในปี 2002, คว้าแชมป์แกรนด์สแลมทั้งหมด 14 รายการ, ออสเตรเลียนโอเพ่น 2 รายการ, วิมเบิลดัน 7 รายการ และยูเอสโอเพ่น 5 รายการ

  1.  บิยอร์น บอร์ก / Björn Borg

7-Björn Borg

บียอร์น บอร์ก ถูกขนานนามว่าเป็นนักเทนนิสที่ขึ้นชื่อว่าทำผลงานได้ดีที่สุด ในช่วงปี 1977 ถึง ปี 1980 หลังจากคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 11 รายการ เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกของยุคโอเพ่นที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพ่นมากถึง 6 รายการ และวิมเบิลดัน 5 รายการ แม้จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูเอสโอเพ่นถึงสี่ครั้ง แต่เขาก็ชวดรางวัลนั้นไปอย่างน่าเสียดาย เขาได้รับรางวัลเดวิสคัพรอบชิงชนะเลิศทัวร์และรอบชิงชนะเลิศ WCT บียอร์น บอร์ก ถูกยกให้เป็นเป็นหนึ่งในนักเทนนิสไม่กี่คนที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการ โดยไม่เสียเซตแม้แต่เซตเดียว ในเส้นทางอาชีพของการเป็นนักเทนนิส เขาได้รับรางวัลจากการแข่งขันไปมากถึง 64 รายการ

  1.  จิมมี่คอนเนอร์ส / Jimmy Connors

8-Jimmy Connors

ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา บวกกับฝีไม้ลายมือและทักษะที่น่าทึ่งของ จิมมี่ คอนเนอร์ส อดีตนักเทนนิสชายชาวอเมริกัน ทำให้เขาเคยคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 8 รายการ, ออสเตรเลียนโอเพ่น 1 รายการ, วิมเบิลดัน 2 รายการ และยูเอสโอเพ่น 5 รายการ และแกรนด์สแลม 2 รายการ ในประเภทคู่, วิมเบิลดัน 1 รายการ และยูเอสโอเพ่น 1 รายการ นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลเดวิสคัพรอบชิงชนะเลิศทัวร์และรอบชิงชนะเลิศ WCT เขาได้รับรางวัล 109 รายการ รวมไปถึงการเป็นอดีตมือวางอันดับหนึ่งของโลกที่เก่งกาจที่สุดจากการจัดอันดับของ ATP โดยติดอันดับ 1 เป็นเวลานานถึง 160 สัปดาห์!

  1.  แอนดี เมอร์เรย์ / Andy Murray

9-Andy Murray

แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสชื่อดังชาวอังกฤษ นักล่ารางวัลหลายรายการตลอดเส้นทางการเป็นนักเทนนิส แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บกับปัญหาบริเวณเข่ามาอย่างยาวนาน แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อและพลิกชะตาของตัวเอง คว้ารางวัลทั้งแชมป์ยูเอส โอเพ่น 1 สมัย, แชมป์ วิมเบิลดัน 1 สมัย, รองแชมป์ออสเตรเลีย โอเพ่น 3 สมัย และคว้าเหรียญทอง เทนนิสชายเดี่ยว จากโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่บ้านเกิด และก็กวาดรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะเดียวกันในปี 2014 เขาผู้นี้เคยไปสัมผัสในการคว้าชัยขึ้นแท่นนักเทนนิสมือหนึ่งของโลกมาแล้วเช่นกัน

จบกันไปแล้วสำหรับ หนุ่ม ๆ ทั้ง 9 อันดับ จากหัวข้อ นักเทนนิสชาย หล่อละลาย มีสไตล์จนสนามต้องลุกเป็นไฟ จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเพียงหน้าตาที่โดดเด่นหรือความหล่อเข้มเพียงอย่างเดียว ที่สะกดสายตาแฟน ๆ จากทั่วโลก เพราะเขาเหล่านี้ต่างก็มีฝีมือคว้าแชมป์หลายสมัย ไม่ว่าจะเป็น 4 ปี หรือ คว้าแชมป์ยาว ๆ ติดแบบ 8 ปี ซ้อนกันไป อย่างไรก็ตาม นักเทนนิสชายหลายคนก็ใช้ความมีชื่อเสียงและเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันมาจัดตั้งมูลนิธิหรือองค์กรที่เป็นของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาหรือการสนับสนุนเยาวนชนที่เกี่ยวกับการเล่นกีฬา เป็นต้น


เราไม่ใส่สีอื่น นอกจาก “สีขาว” นี่คือกฎการแข่งเทนนิสที่ Wimbledon

Wimbledon

ในวงการเทนนิส “แกรนด์สแลม” หมายถึง การแข่งขันรายการใหญ่ทั้ง 4 รายการ ได้แก่ ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟรนช์ โอเพ่น, ยูเอส โอเพ่น และวิมเบิลดัน ในขณะเดียวกันแกรนด์แสลมก็ถูกใช้เป็นเครื่องหมายแสดงความสำเร็จในการเป็นนักเทนนิสอาชีพ แต่การจะคว้าแชมป์ให้ได้ 1 สมัย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ยิ่งเป็นการคว้าแชมป์ให้ครบทั้ง 4 รายการ ในปีเดียวกัน ถือเป็นเรื่องยากที่สุด หากใครทำได้ก็จะถูกยกให้เป็นที่สุดของวงการลูกสักหลาด แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะพูดถึงซะเดียว เพราะเราจะมาพูดถึง 1 ในกฎระเบียบ ของการแข่งขันใน วิมเบิลดัน (Wimbledon) แกรนด์สแลมรายการที่ 3 ที่ทำให้นักเทนนิสบางคนถึงกับบอยคอตต์ ตัดสินใจไม่แข่งที่แกรนด์แสลมนี้ไปเลยในช่วงหนึ่ง

ด้วยความที่ วิมเบิลดัน เป็นแกรนด์สแลมเก่าแก่ที่สุดของโลก แน่นอนว่าก็ต้องมีกฎระเบียบและข้อปฏิบัติของการแข่งขันที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ซึ่ง 1 ในธรรมเนียมที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่การแข่งขันที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1877 จนถึงปัจจุบันและยังคงใช้ไม่เปลี่ยนแปลงนั่นก็คือ การแต่งกายสีขาว ไม่ว่าผู้เข้าแข่งขันจะเป็นหญิงหรือชายก็ต้องใส่สีขาว ย้ำว่า “สีขาว” เท่านั้น กฎดังกล่าวนั้นมีที่มาที่ไป คือ ในอดีต ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เทนนิสมีสถานะเป็นกีฬาสังคมของชนชั้นพรีวิเลจ หรือ แวดวงไฮโซและเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษเท่านั้น ที่จะใช้กีฬานี้ในการพบปะพูดคุยในเรื่องต่าง ๆ ตามสถานที่สาธารณะ และภาพลักษณ์ระหว่างการเล่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ทว่าเหงื่อและการออกกำลังกายเป็นของคู่กัน เมื่อเหงื่อออกมากมันก็มักจะทิ้งคราบไว้บนเสื้อจนเกิดเป็น “ขี้เกลือ” ไว้บนชุดที่สวมใส่ ด้วยเหตุนี้ผู้คนในสมัยนั้นจึงพรางคราบเหงื่อของตนขณะการเล่นกีฬาชนิดนี้ด้วย เสื้อสีขาว นั่นเอง เพราะถ้าเป็นผ้าสีก็ทำให้คราบนั้นเห็นชัดไม่น่าดู โดยกฎระเบียบเรื่องสีชุดแข่งในศึกวิมเบิลดันที่เข้มงวด ทำให้นักกีฬาหลายคนที่ลงแข่งพูดถึงอย่างเปิดเผยว่ามันเกินไป หลังจากที่โดนกรรมการตักเตือนเรื่องการทำผิดกฎ อย่างการใส่กระโปรงคาดสีน้ำเงิน หรือ ในกรณีของ อังเดร อากัสซี่ ที่ตัดสินใจไม่ร่วมแข่งในปี 1988-1990 เพราะกฎที่เข้มงวดนี้ทำให้เขาไม่สามารถใส่ชุดแข่งขันสีสด ๆ ตามภาพลักษณ์ของเขาได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2014 วิมเบิลดัน ก็ได้มีการอัพเดตกฎระเบียบและข้อปฏิบัติล่าสุดในการเข้าแข่งขันทั้งชายและหญิง ซึ่งข้อบังคับใช้ระหว่างการแข่งขันที่ว่านั้นระบุไว้ว่า นักกีฬาทุกคนจะต้องใส่ชุดสีขาวทุกชิ้นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รวมไปถึงชุดวอร์มที่ใส่ซ้อม และต้องใส่ชุดสีขาวตลอดเวลาที่เข้าสู่พื้นที่สนาม แม้จะเป็นช่วงเวลาของการฝึกซ้อมก็ตาม ทั้งนี้กฎยังได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า ชุดที่เลือกนำมาใส่ในสนามต้องเป็นชุดสีขาวเท่านั้น ไม่สามารถใส่สีใกล้เคียง อย่างสีครีมได้ โดยอนุญาตให้มีขลิบสีอื่นเพียงบริเวณรอบคอหรือรอบแขนเสื้อเท่านั้น และจะต้องมีขนาดเพียง 1 เซนติเมตร

ref:

  1.  https://www.mainstand.co.th/875
  2.  https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/10-classic-wimbledon